รุด ฟาน นิสเตลรอย ยอมรับว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องยิงประตูให้กับทีมได้อีกครั้ง ศูนย์หน้าดาวยิงชาวดัทช์ทำได้ถึง 110 ประตูในการเล่น 3 ฤดูกาลแรกของเขาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ทำได้เพียง 12 ประตูในฤดูกาลนี้ หลังจากไม่ได้ลงเล่นเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย
การทำประตูไม่ได้ติดต่อกัน 6 นัด ตั้งแต่เขากลับมาจากการบาดเจ็บล่าสุดของเขา ในเกมซึ่งน่าผิดหวังที่เสมอ 0-0 กับแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว เป็นสถิติยาวนานที่สุดที่เขาทำประตูไม่ได้ ตั้งแต่เข้ามาสู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2001
การขาดแคลนประตูอย่างต่อเนื่องทำให้มีการคาดหมายกันว่า อดีตนักเตะพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น อาจจะถูกดร็อบในเกมไปเยือนนอริช ซิตี้ ในวันเสาร์
จากการที่ทั้งอลัน สมิธ และหลุยส์ ซาฮา กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้งในการเล่นเกมสำรองในช่วงต้นสัปดาห์ และเวย์น รูนี่ย์ เป็นคนเดียวใน 4 ศูนย์หน้าราคาแพงของทีมที่เล่นได้เข้าฟอร์ม โดยที่รุด มีสิทธิ์ที่จะกังวลได้
การไปเยือนแคร์โรว์ โร้ด เกิดขึ้นเพียง 8 วัน ก่อนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะลงเล่นในรายการความหวังสุดท้ายที่จะได้ถ้วย กับนิวคาสเซิล ในเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ
ดังนั้น ถ้ารุด ฟาน นิสเตลรอย ยังต้องการรักษาตำแหน่งในทีมเอาไว้ เขาจะต้องยิงประตูให้กับสโมสรให้ได้อีกครั้ง หลังจากยิงให้กับฮอลแลนด์ ได้ในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ที่เอาชนะอาเมเนีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“มันเป็นสิ่งที่ดีที่สามารถทำประตูให้กับฮอลแลนด์ ได้ แต่สำหรับผมแล้ว มันถึงเวลาที่จะต้องกลับมาเล่นได้ดีให้กับสโมสรของผม” เขากล่าว
“นั่นเป็นสิ่งที่ผมตั้งใจเอาไว้”
“ผมเคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน มันสำคัญสำหรับผมที่จะรู้ความสามารถของตัวเอง เล่นให้ถึงที่สุด และทำตัวให้สงบเข้าไว้”
แม้ว่าแฟนบอลของทีม จะเรียกหาอลัน สมิธ ในช่วงครึ่งหลังเมื่อวันเสาร์ พวกเขาก็ยังคงตะโกนชื่อฟาน นิสเตลรอย อีกด้วย ในตอนที่กองหน้าวัย 28 ปีเดินคอตกเข้าไปในอุโมงค์ หลังจากถูกเปลี่ยนตัวออก
การต้อนรับแบบนี้ทำให้ศูนย์หน้าค่าตัว 18.5 ล้านปอนด์มุ่งมั่นยิ่งขึ้นไปอีกในการที่จะถล่มตาข่ายให้ได้อีกครั้ง เพราะเขาต้องการตอบแทนความเชื่อมั่นที่มีในตัวเขาจากแฟนบอลปีศาจแดง
“มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากที่มีแฟนบอลหนุนหลังผม” เขากล่าว “แต่ผมรู้สึกว่า ผมจะต้องตอบแทนพวกเขาในสิ่งที่พวกเขาให้กับผม ผมสามารถตอบแทนพวกเขาได้โดยการทำผลงานให้ดีและทำประตูให้ได้ นั่นคือวิถีทางที่เป็นไปเสมอ”
อย่างไรก็ตามเขายอมรับว่าเขาคงจะต้องจบฤดูกาลนี้โดยไม่สามารถเพิ่มเหรียญแชมป์ลีกให้กับตัวเองได้ หลังจากทำได้เพียงเหรียญเดียวตั้งแต่เข้ามาร่วมทีมปีศาจแดง
และเขาเห็นว่าการทำประตูได้น้อยเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถเทียบชั้นกับเชลซี ได้ในการชิงแชมป์ลีก
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นครั้งที่ 8 จาก 31 นัดในพรีเมียร์ชิพ ที่ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งมักจะทำประตูได้สม่ำเสมอ ไม่สามารถยิงประตูคู่แข่งได้ในฤดูกาลนี้ และทำได้เพียง 48 ประตูในลีก โดยกำลังจะทำสถิติทำประตูได้น้อยที่สุดใน 14 ปีที่ผ่านมา
“สถิติการเล่นเกมรับของเราในฤดูกาลนี้เป็นหนึ่งในสถิติที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา” รุด กล่าว
“แต่เราจะต้องพัฒนาการเล่นเกมรุกของเราอีกมาก เรารู้ในสิ่งนั้นและเราต้องทำให้ดีขึ้น”
“ในการเจอกับ แบล็คเบิร์น เราโชคไม่ดีในครึ่งแรก แต่ในครึ่งหลัง เราไม่ได้ทำอันตรายใดๆ เลย และจบลงที่ผลการแข่งขันที่น่าผิดหวัง”
“ถ้าคุณมองภาพรวมของฤดูกาลนี้ เราแพ้ไปเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น นั่นเป็นสิ่งที่ดี แต่โดยรวมแล้วเราเสมอบ่อยครั้งจนเกินไป”
DaKinG
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC